วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

ตลาดที่นอนเพื่อสุขภาพ

นำเข้าเทมเพอร์เจาะลูกค้าไฮโซฯ

แอร์โรว์เบดดิ้ง รุกตลาดที่นอน-หมอนเพื่อสุขภาพ นำเข้าแบรนด์ เทมเพอร์ จากอเมริกาเจาะกลุ่มลูกค้าไฮโซฯ ทุ่มงบฯ 20 ล้านบาทผุดโชว์รูมในห้างดิเอสพละนาด พร้อมขยายตลาดผ่านศูนย์การค้า โมเดิร์นเทรดวัสดุ ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 100 ล้านบาท

นายสุภัทร พันธิสุนทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอโรว์เบดดิ้ง จำกัด ผู้แทนจำหน่ายที่นอนและหมอนเพื่อสุขภาพแบรนด์ เทมเพอร์ จากอเมริกา เปิดเผยว่า ได้เข้ามารุกตลาดที่นอนและหมอนเพื่อสุขภาพระดับไฮเอนด์ โดยเป็นตัวแทนจำหน่ายให้แบรนด์เทมเพอร์จากสหรัฐอเมริกา โดยเทมเพอร์มีส่วนแบ่งตลาดที่นอนและเครื่องนอนระดับไฮเอนด์เป็นอันดับ 1 มียอดขายทั่วโลกในปีที่ผ่านมาประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์

จุดเด่นคือ เป็นที่นอนผลิตจากวัสดุชนิดพิเศษ วิสโค อีลาสติก มีคุณสมบัติถ่ายเทอากาศได้ดี ไม่กักเก็บเหงื่อและความชื้น ป้องกันไรฝุ่น ช่วยรักษาอุณหภูมิร่างกายให้คงที่ในขณะนอนหลับ รวมถึงมีความยืดหยุ่นสูงจึงกระจายน้ำหนักแรงกดทับได้ดี ได้รับความไว้วางใจจากองค์การนาซาเลือกใช้หมอนรองพนักพิงสำหรับนักบินอวกาศเพื่อป้องกันแรงสั่นสะเทือน

เหตุผลที่เรานำที่นอนและหมอนเทมเพอร์เข้าทำตลาดเกิดจากมีลูกค้าสนใจสอบถามเข้ามาประมาณ 20-30 ราย บวกกับไลฟ์สไตล์ของคนหันมาใส่ใจกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะสุขภาพในการนอนเพื่อแก้หรือบรรเทาอาการปวดหลัง ทำให้บริษัทมองว่าเป็นตลาดที่น่าจะไปได้ เฉพาะปีแรกเราตั้งยอดขายไว้ 100 ล้านบาท

สำหรับสินค้าที่นำเข้าทำตลาดแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.ที่นอนเพื่อสุขภาพราคาตั้งแต่ 1-2 แสนบาท (เฉพาะที่นอนไม่รวมเตียง) และ 2.หมอนเพื่อสุขภาพราคาตั้งแต่ 5-8 พันบาท สินค้าไฮไลต์คือเตียงนอนปรับระดับแบบควบคุมด้วยรีโมตคอนโทรล ช่วยป้องกันปัญหาปวดหลังราคา 2.1 แสนบาท เน้นจับกลุ่มลูกค้ารายย่อยทั้งชาวไทยและต่างชาติ ส่วนตลาดงานโครงการเป็นเป้าหมายที่จะเข้าไปทำตลาดต่อไปในอนาคต หลังจากแบรนด์เทมเพอร์เริ่มเป็นที่รู้จักในระดับหนึ่ง

ขณะนี้ได้เปิดโชว์รูมแห่งแรกภายในศูนย์การค้าดิเอสพละนาด (ชั้น M) พื้นที่กว่า 100 ตารางเมตร ใช้งบฯลงทุน 20 ล้านบาท จากนั้นในช่วงปลายปีนี้จะเปิดโชว์รูมแห่งที่ 2 ในซอยทองหล่อ พื้นที่ประมาณ 200 ตารางเมตร คาดว่าใช้งบฯลงทุนประมาณ 10 ล้านบาท ส่วนช่องทางจำหน่ายจะขยายตลาดผ่านศูนย์การค้าและโมเดิร์นเทรด ได้แก่ เซ็นทรัล โฮมโปร อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ และสยามพารากอน

ในปีแรกเราวางงบฯการตลาด 15 ล้านบาทเพื่อโปรโมตสินค้า หลักๆ เน้นไปที่การจัดอีเวนต์และกิจกรรมโรดโชว์ ณ จุดขาย ส่วนปีหน้าเราเตรียมนำสินค้าจำพวกหมอนรองคอและเบาะรองพนักพิงเก้าอี้เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติม เพื่อผลักดันยอดขายให้ได้ตามเป้า

นายสุภัทรกล่าวอีกว่า ภาพรวมตลาดที่นอนและหมอนระดับไฮเอนด์ปีที่ผ่านมาคาดว่ามีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 1,000 ล้านบาท หรือ 25% จากมูลค่าตลาดรวม 4,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามกลุ่มที่นอนซึ่งเน้นจุดขายเพื่อสุขภาพจริงๆ ปัจจุบันมีผู้เล่นไม่กี่ราย ดังนั้นจึงแทบไม่มีคู่แข่ง เท่าที่ทราบมีเพียงโมเดอร์นฟอร์มที่นำเข้าสินค้ามาทำตลาดได้ 1-2 ปี ดังนั้นจึงมองว่าตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก

ไม่มีความคิดเห็น: