จากการศึกษาค้นคว้าของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางระบบหายใจ
พบว่าประชากรของโลกป่วยเป็นโรค
ภูมิแพ้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ โดยในครึ่งหนึ่งมีสาเหตุมาจากเจ้าไรฝุ่น
และที่สำคัญบรรดาเด็กๆที่ต้อง
ทนทุกข์ทรมานจากโรคหอบ หืด มีสาเหตุมาจากเจ้าไรฝุ่นมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์
ตัวไรฝุ่น (Mites) มีขนาดประมาณ 0.3 ม.ม.
ทำให้ไม่สามารถสังเกตุเห็นด้วยตาเปล่า เป็นสาเหตุ
ใหญ่ที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ อาการภูมิแพ้ หอบ หืด คัดจมูก
องค์การอนามัยโรค (WHO) ได้กำหนด
ให้ไรฝุ่นเป็นพาหะอันตรายที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ที่มีความสำคัญเป็นอันดับ
6 ของโลก ตั้งแต่ปี 1995
แหล่งที่ไรฝุ่นชอบมากที่สุด คือบริเวณ ที่นอน ฟูก หมอน หมอนข้าง ผ้าห่ม
ผ้านวม พรม และพวก
เฟอร์นิเจอร์ที่บุหุ้มด้วยผ้า บริเวณที่เป็นปัญหามากที่สุดคือ ที่นอน
และหมอน เพราะเจ้าไรฝุ่นเหล่านี้
จะอาศัยเศษผิวหนังของคนเรา เหงื่อไคล เป็นอาหาร ตามรูป
กอรปกับบนที่นอนมีความชื้นจากเหงื่อ
และอุณหภูมิที่เหมาะสม ทำให้สามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว
บนที่นอนเตียงคู่จะมีเจ้าไรฝุ่นอาศัยอยุ่ไม่น้อยกว่า 2 ล้านตัว และ
ในแต่ละวันไรฝุ่นจะถ่ายมูลได้ถึง 40 กอง มูลของไรฝุ่นมีขนาด
0.01-0.04 ม.ม. ในชั่ววงจรชีวิตของไรฝุ่น (ประมาณ 2 เดือน)
ไรฝุ่นสามารถถ่ายมูลออกมาได้มากถึง 200 เท่าของน้ำหนักตัว
ดังนั้นแค่คุณนอนพลิกตัว เศษมูลของไรฝุ่นสามารถฟุ้งกระจาย
เมื่อเราสูดหายใจเข้าไป มันจะไปกระตุ้น ระบบภูมิแพ้ และทำให้
เราเกิดอาการภูมิแพ้ต่างๆ จนนอนไม่เป็นสุข
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต้องประสบภาวะทุกข์ทรมานกับโรคภูมิแพ้ที่มีต้นเหตุมาจากเจ้าไรฝุ่นเหล่านี้
หมอนเป็นแหล่งอาศัยที่ดีของไรฝุ่น หมอนที่มีอายุการใช้งานมานานประมาณ 6
ปี สามารถมีเศษผิวหนัง
รังแค เชื้อรา ไรฝุ่น ทั่งที่มีชีวิตและที่ตายแล้ว รวมถึงมูลของไรฝุ่น
สะสมรวมกัน มีน้ำหนักได้ถึง 10 %
ของน้ำหนักหมอนได้เลยที่เดียว
นอกจากไรฝุ่นแล้วบนเครื่องนอนที่มีความชื้นจากเหงื่อไคล
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้องนอนปรับอากาศ
ที่มีการระบายถ่ายเทอากาศได้ไม่ดี
จะสะสมความอับชื้นไว้กับเครื่องนอนเป็นภาวะที่เหมาะสมต่อการ
แพร์พันธ์ทั้งไรฝุ่นและเชื้อราได้
เชื้อราจะปล่อยสปอร์ตกกระจายไปตามที่นอน หมอน ผ้าห่ม ดัวนั้น
จำเป็นที่ต้องหมั่นทำความสะอาดปลอกหมอน ผ้าปูที่นอนเป็นประจำ ผ้าห่มควรได้รับ
จากนำไปผึ่งแดดเพื่อช่วยฆ่าเชื้อและไรฝุ่น อาจไม่สามารถฆ่าได้หมด แต่ก็ยังช่วยลด
จำนวนไรฝุ่นและมูลให้ลดลงไปบ้าง ถ้าเราสามารถหมั่นทำความสะอาดที่นอนเป็น
ประจำปัญหาโรคภูมิแพ้ก็สามารถบรรเทาลงได้บ้าง แต่ถ้าหากไม่มีเวลามากพอ การ
ใช้ผลิตภัณฑ์ช่วยป้องกันการฟุ้งกระจายของมูลไรฝุ่น / สปอร์ของเชื้อรา ไม่ให้เราสูด
หายใจเข้าไป จนกระตุ้นให้เกิดภาวะภูมิแพ้ เป็นทางเลือกทางหนึ่ง ที่สำคัญเครื่องนอน
ที่ป้องกันมูลและตัวไรฝุ่นได้ จะต้องมีการถักทอให้เส้นใยชิดแน่นน้อยกว่า
0.1-0.2 ม.ม. เพื่อป้องกัน
ไม่ให้ตัวและมูลไรฝุ่น
สปอร์ของราเหล่านี้ฟุ้งกระจายขึ้นมากระตุ้นอาการภูมิแพ้ของเราได้
และที่สำคัญบรรดาเด็กๆที่ต้อง
ทนทุกข์ทรมานจากโรคหอบ หืด มีสาเหตุมาจากเจ้าไรฝุ่นมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์
ตัวไรฝุ่น (Mites) มีขนาดประมาณ 0.3 ม.ม.
ทำให้ไม่สามารถสังเกตุเห็นด
ใหญ่ที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ อาการภูมิแพ้ หอบ หืด คัดจมูก
องค์การอนามัยโรค (WHO) ได้กำหนด
ให้ไรฝุ่นเป็นพาหะอันตรายที่ก
6 ของโลก ตั้งแต่ปี 1995
แหล่งที่ไรฝุ่นชอบมากที่สุด คือบริเวณ ที่นอน ฟูก หมอน หมอนข้าง ผ้าห่ม
ผ้านวม พรม และพวก
เฟอร์นิเจอร์ที่บุหุ้มด้วยผ้า บริเวณที่เป็นปัญหามากที่สุดคือ ที่นอน
และหมอน เพราะเจ้าไรฝุ่นเหล่านี้
จะอาศัยเศษผิวหนังของคนเรา เหงื่อไคล เป็นอาหาร ตามรูป
กอรปกับบนที่นอนมีความชื
และอุณหภูมิที่เหมาะสม ทำให้สามารถขยายพันธุ์ได้อย
บนที่นอนเตียงคู่จะมีเจ้าไรฝุ
ในแต่ละวันไรฝุ่นจะถ่ายมูลได้ถ
0.01-0.04 ม.ม. ในชั่ววงจรชีวิตของไรฝุ่น (ประมาณ 2 เดือน)
ไรฝุ่นสามารถถ่ายมูลออกมาได
ดังนั้นแค่คุณนอนพลิกตัว เศษมูลของไรฝุ่นสามารถฟุ
เมื่อเราสูดหายใจเข้าไป มันจะไปกระตุ้น ระบบภูมิแพ้ และทำให้
เราเกิดอาการภูมิแพ้ต่างๆ จนนอนไม่เป็นสุข
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต้องประสบภาว
หมอนเป็นแหล่งอาศัยที่ดีของไรฝุ
ปี สามารถมีเศษผิวหนัง
รังแค เชื้อรา ไรฝุ่น ทั่งที่มีชีวิตและที่ตายแล้ว รวมถึงมูลของไรฝุ่น
สะสมรวมกัน มีน้ำหนักได้ถึง 10 %
ของน้ำหนักหมอนได้เลยที่เดียว
นอกจากไรฝุ่นแล้วบนเครื่องนอนที
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้องนอนปร
ที่มีการระบายถ่ายเทอากาศได้ไม
จะสะสมความอับชื้นไว้กับเครื
แพร์พันธ์ทั้งไรฝุ่นและเชื
เชื้อราจะปล่อยสปอร์ตกกระจายไปต
จำเป็นที่ต้องหมั่นทำความสะอาดป
จากนำไปผึ่งแดดเพื่อช่วยฆ่าเชื
จำนวนไรฝุ่นและมูลให้ลดลงไปบ้าง ถ้าเราสามารถหมั่นทำความสะอาดที
ประจำปัญหาโรคภูมิแพ้ก็สามารถบร
ใช้ผลิตภัณฑ์ช่วยป้องกันการฟุ
หายใจเข้าไป จนกระตุ้นให้เกิดภาวะภูมิแพ้ เป็นทางเลือกทางหนึ่ง ที่สำคัญเครื่องนอน
ที่ป้องกันมูลและตัวไรฝุ่นได้ จะต้องมีการถักทอให้เส้นใยชิดแน
0.1-0.2 ม.ม. เพื่อป้องกัน
ไม่ให้ตัวและมูลไรฝุ่น
สปอร์ของราเหล่านี้ฟุ้งกระจายขึ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น